Moving Average (MA) เป็นตัวบ่งชี้แนวโน้ม มันช่วยในการระบุและปฏิบัติตามแนวโน้มที่มีอยู่
ข้อดีของ Moving Average:
• ระบุทิศทางของแนวโน้ม
• หาการผกผันของแนวโน้ม
• แสดงระดับแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้น
ข้อเสียของ Moving Average:
• ล่าช้ากว่าราคาปัจจุบัน (จะเปลี่ยนช้ากว่ากราฟราคาเพราะตัวชี้วัดจะขึ้นอยู่กับราคาในอดีต)
เคล็ดลับ:
• เราขอแนะนำให้คุณใช้ Simple Moving Average เนื่องจากผู้ค้าส่วนใหญ่ใช้เส้นนี้
• ระยะเวลาที่นิยมมากที่สุดสำหรับ MA คือ 200, 100, 50 และ 20 ระยะเวลา 200 MA สามารถช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้ม “historical” ในระยะยาวในขณะที่ MA ระยะเวลา 20 เป็นไปตามแนวโน้มระยะสั้น
วิธีการสรุปและตีความ
ในระยะสั้นแนวโน้มจะเป็น bullish เมื่อราคาของคู่สกุลเงินอยู่เหนือระดับ MA และเป็น bearish เมื่อราคาตกลงต่ำกว่า นอกจากนี้โปรดทราบว่า Moving Averages มีระยะเวลาต่างกันอย่างไร
การเอียงขึ้นจะได้รับการยืนยันเมื่อ MA ในระยะสั้น (เช่นระยะเวลา 50) สูงขึ้นเหนือ MA ในระยะยาว (เช่นระยะเวลา 100) และในทางกลับกันการเอียงลงได้รับการยืนยันเมื่อ MA ระยะสั้นอยู่ต่ำกว่า MA ระยะยาว
ข้อสรุป
Moving Average แสดงให้เห็นว่าจะซื้อหรือขายคู่สกุลเงิน (ซื้อในขาขึ้น ขายในขาลง) MA จะไม่บอกคุณในสิ่งที่ระดับที่คุณเปิดการซื้อขายของคุณ (ซึ่งคุณจะต้องใช้ตัวชี้วัดอื่นๆ ) ดังนั้นการใช้ตัวบ่งชี้แนวโน้มควรเป็นหนึ่งในขั้นตอนแรกของการวิเคราะห์ทางเทคนิคของคุณ