MACD (Moving Average Convergence/Divergence) เป็นตัวขับเคลื่อนแรงขับเคลื่อนตลาด มันแสดงให้เห็นเมื่อตลาดไม่อยากที่จะเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวและต้องการพักผ่อน (ปรับฐาน)

วิธีการตีความ

1. การขึ้น/ลดลงอย่างรวดเร็ว ให้ขายเมื่อแท่งกราฟเริ่มลดลงหลังจากการเพิ่มขึ้นครั้งใหญ่ ซื้อเมื่อแท่งกราฟเริ่มเติบโตขึ้นหลังจากที่มีการลดลงอย่างมาก

2. การตัดกันระหว่าง histogram และเส้นสัญญาณสามารถทำให้รายการในตลาดมีความแม่นยำมากขึ้น ซื้อเมื่อ MACD-histogram สูงขึ้นเหนือเส้นสัญญาณ ขายเมื่อ MACD-histogram ต่ำกว่าเส้นสัญญาณ

3. เส้นศูนย์ (Zero line) เป็นคำยืนยันเพิ่มเติม เมื่อ MACD ข้ามเส้นศูนย์ มันแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของ bulls หรือ bears ซื้อเมื่อ MACD-histogram สูงกว่า 0 ขายเมื่อ MACD-histogram ต่ำกว่า 0 หมายเหตุว่าสัญญาณดังกล่าวอ่อนแอกว่า MACD-histogram ก่อนหน้า

4. ความแตกต่าง หากราคาเพิ่มขึ้นและสัญญาณ MACD ตกลง มันหมายความว่าความคืบหน้าของราคายังไม่ได้รับการยืนยันจากตัวบ่งชี้และ rally กำลังจะสิ้นสุดลง ในทางตรงกันข้ามหากราคาอ่อนตัวลงและ MACD สูงขึ้น bullish อาจเกิดขึ้น

เคล็ดลับ

• การตัดกันระหว่างฮิสโตแกรมกับเส้นสัญญาณเป็นสัญญาณที่ดีที่สุดจาก MACD

• ติดตามความแตกต่างระหว่าง MACD กับราคา: มันเป็นการบ่งชี้ถึงการปรับฐานที่จะเกิดขึ้น

ข้อดีของ MACD:

• MACD สามารถใช้ได้ทั้ง trending หรือ ranging markets.

• ถ้าคุณเข้าใจ MACD, คุณจะเรียนรู้เกี่ยวกับการทำงานของ oscillator อื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย: หลักการคล้ายคลึงกันมาก

ข้อเสียของ MACD:

• สัญญาณบ่งชี้ล่าช้าตามหลังกราฟราคา ดังนั้นสัญญาณบางอย่างมาช้าและไม่ได้ตามด้วยการเคลื่อนไหวที่แข็งแกร่งของตลาด

บทสรุป มันดีกว่าที่จะมี MACD ในแผนภูมิของคุณเนื่องจากมีการวัดแนวโน้มและโมเมนตัม มันอาจเป็นส่วนหนึ่งของระบบการค้าแม้ว่าเราจะไม่แนะนำให้ตัดสินใจซื้อขายโดยใช้ตัวบ่งชี้นี้